ประเพณี พิธีกรรม ความเชื่อ ผีโขนบ้านศรีหลวงแจ้ซ้อน
ชื่อประเพณี พิธีกรรม ความเชื่อ : ผีโขนบ้านศรีหลวงแจ้ซ้อน
สถานที่จัด : วัดศรีหลวงแจ้ซ้อน ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง
ประเภท : ความเชื่อ
เดือน : พฤษภาคม
ช่วงเวลา : วันวิสาขบูชาของทุกปี
คำอธิบายอื่นๆ : ผีโขนบ้านศรีหลวงแจ้ซ้อน

ในช่วงงานบุญประเพณี 8 เป็ง (เดือนพฤษภาคม) หรือช่วงวันวิสาขบูชาของทุกปี บ้านศรีหลวงแจ้ซ้อนจะมีประเพณีสำคัญ คือ การสรงน้ำพระธาตุ ที่วัดศรีหลวงแจ้ซ้อน ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง โดยกิจกรรมในวันพระใหญ่เช่นนี้ นอกจากจะมีการทำบุญตักบาตรและมีการเวียนเทียนตามประเพณีในพุทธศาสนาแล้ว ชาวบ้านศรีหลวงแจ้ซ้อน ยังได้ร่วมกันจัดงานสรงน้ำพระธาตุขึ้นอีกด้วย และความพิเศษของการสรงน้ำพระธาตุของที่นี่ก็คือ การแห่ครัวตาน การแห่บั้งไฟ และการเล่นผีโขนซึ่งมีมานานไม่น้อยกว่า 70 ปี

กล่าวเฉพาะการเล่นผีโขนนับว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะโดยทั่วไปแล้ว “ผีโขน” หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า “ผีตาโขน” นั้นที่มีชื่อเสียงจะอยู่ในภาคอีสานคือ อ.ด่านซ้าย จ.เลย และมักจะเล่นกันในช่วงที่มีการเทศน์มหาชาติ หรือที่ทางลำปางเรียกว่า “งานบุญประเพณีตั้งธรรมหลวง” โดยที่มาจากการเทศน์มหาชาติกัณฑ์สุดท้าย คือ นครกัณฑ์ ซึ่งกล่าวถึงพระเวสสันดรผู้บำเพ็ญตนด้วยทานบารมีและได้เข้าไปถือศีลอยู่ในป่า ในตอนที่พระองค์และพระนางมัทรีได้กลับคืนสู่พระนครนั้นปรากฏว่ามีผีป่าและสัตว์นานาชนิดเดินตามออกมาจากป่าเพื่อส่งทั้ง 2 พระองค์เข้าเมืองด้วย จึงมีการสันนิษฐานถึงที่มาของการเล่น “ผีตาโขน” ว่ามาจากอาการที่ “ผีเดินตามคน” ออกมาจากป่านั่นเอง

อย่างไรก็ดี การเล่นผีโขนของชาวบ้านศรีหลวงแจ้ซ้อนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการเล่นผีตาโขนในจังหวัดอื่นๆ เพราะช่วงเวลาในการเล่นและการแต่งกายของผีโขนก็มีลักษณะแตกต่างกัน อีกทั้งการเล่นผีโขนที่บ้านศรีหลวงแจ้ซ้อนก็มีมานานแล้วเช่นกัน จากคำบอกเล่าของคุณป้าผาณิต สถาปัตย์ อายุ 71 ปี ที่เล่าให้ทีมวิจัยฟังว่า ได้เห็นผีโขนของบ้านศรีหลวงแจ้ซ้อนตั้งแต่ครั้งยังเป็นเด็กเล็กๆ และพ่อแม่ของตนก็เล่าให้ฟังว่าได้เห็นผีโขนนี้มาตั้งแต่ยังเล็กแล้วเช่นกัน โดยที่นี่จะเรียกว่า “ผีโขน” (บางคนออกสียงสั้นก็จะเรียกว่า ผีขน) สำหรับความพิเศษของการกลายเป็นผีโขนของชาวบ้านศรีหลวงแจ้ซ้อนจะผูกพันกับคติความเชื่อเกี่ยวกับอานิสงส์ของการทำบุญอย่างน้อย 2 ประการ กล่าวคือ

1. เชื่อว่าการกลายเป็นผีโขนช่วยเป็นสะพานบุญให้ผู้ล่วงลับได้มีโอกาสมาทำบุญผ่านการร่วมงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุวัดศรีหลวงแจ้ซ้อน ความเชื่อนี้มาจากการอัญเชิญดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับให้เข้ามาอยู่ในร่างของผู้ที่จะแปลงกายเป็นผีโขน โดยขั้นตอนจะเริ่มจากการเตรียมทำหัวผีโขนและชุดของผีโขน (ใช้เสื้อผ้าเก่าๆ หรือไปขอจีวรเก่าจากพระสงฆ์) ซึ่งจะต้องทำโดยไม่เปิดเผยให้ใครรู้ ผู้ที่ตกลงใจเป็นผีโขนในขบวนแห่จะเข้าไปเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ในป่าช้าหรือในไร่/สวนที่เก็บกระดูกของบรรพบุรุษ (ทางเหนือเรียกว่า “กู่”) เมื่อถึงวันที่จัดงานบุญสรงน้ำพระธาตุ ผู้ที่จะเป็นผีโขนก็จะออกจากบ้านโดยนำกระทงใส่ดอกไม้ ธูปเป็นคู่ หมาก พลู กล้วย และข้าวปั้นไปด้วย (จำนวนอย่างละ 1) เมื่อถึงกู่หรือป่าช้าแล้วก็นำชุดผีโขนที่เตรียมไว้ออกมา แล้วนำเครื่องสังเวยที่เตรียมไว้มากล่าวต่อดวงวิญญาณนั้นๆ ให้เข้ามาสิงอยู่ในร่างของตน เมื่อได้ยินเสียงเคาะ “ผ่าง ๆๆๆ” จากคนในหมู่บ้าน เหล่าผีโขนก็จะเดินออกมาจากป่าตามที่ต่างๆ แล้วไปอยู่ที่หน้าขบวนแห่ครัวตานของแต่ละหมู่บ้าน เมื่อแห่ครัวตานเสร็จผีโขนของแต่ละหมู่บ้านก็จะมาอยู่รวมกันที่หน้าวัด แล้วฟ้อนรำหรือเต้นถวายแด่องค์พระธาตุวัดศรีหลวงแจ้ซ้อนร่วมกัน เมื่อเต้นเสร็จชาวบ้านก็จะช่วยกันตี “ผ่าง” ดังๆ และตีถี่ๆ เพื่อเป็นการไล่ผีโขนให้กลับเข้าไปในป่าเหมือนเดิม
สำหรับผีโขนในสมัยก่อนนั้น พวกเด็กๆ และคนขวัญอ่อนที่กลัวผีจะพากันหลบอยู่แต่ในบ้าน เพราะเชื่อว่าผู้ที่อยู่ในชุดผีโขนนั้นเป็น “ผี” ที่เข้ามาสิงอยู่ในร่างของคนที่เดินนำหน้าขบวนแห่ครัวตานจริงๆ ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

2. เชื่อว่าการกลายเป็นผีโขนในงานบุญประเพณีสรงน้ำพระธาตุช่วยให้ตนเองมีรูปร่างหน้าตางดงามในชาติต่อไป สำหรับความเชื่อนี้มาจากอานิสงส์ของการทำบุญในศาสนา โดยชาวบ้านศรีหลวงแจ้ซ้อนมีความเชื่อเกี่ยวกับอานิสงส์ของการแต่งเป็นผีโขนในงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุว่า ถ้าเกิดเป็นคนรูปไม่งามหรือยังไม่พอใจในรูปร่างของตนเอง หากอยากมีรูปร่างหน้าตาที่ดีพร้อมก็ให้แปลงตัวเองเป็นผีโขนในงานสรงน้ำพระธาตุเสีย แล้วอานิสงส์นี้จะช่วยให้รูปร่างของตนเองในชาติต่อไปมีความสวยงามอย่างที่นึกหวัง โดยใครจะอธิษฐานให้ตนสวยงามอย่างไรก็ให้ไปขอก่อนที่จะอัญเชิญดวงวิญญาณเข้ามาสู่ร่างของตน

มีข้อสังเกตว่า การที่จะกลายเป็นผีโขนนั้นจะต้องกระทำการทุกอย่างด้วยความระมัดระวังเพราะจะต้องไม่แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้ และหลังจากที่วิ่งกลับเข้าป่าแล้วก็จะต้องทำลายหัวผีโขนและชุดผีโขนนั้นเสีย โดยอาจจะเผาที่ป่าช้าหรือทิ้งไว้ที่กู่เก็บกระดูกนั้นๆ ด้วยความมุ่งมั่นเช่นนี้เองจึงทำให้ผีโขนที่เดินนำขบวนแห่ครัวตานเป็นการกระทำที่ไม่ใช่การ “เล่น” หากแต่เป็นความตั้งใจจริงของผู้ที่หวังในอานิสงส์ในการแปลงกายเป็นผีในงานบุญประเพณีสรงน้ำพระธาตุวัดศรีหลวงแจ้ซ้อน และการเปลี่ยนจากผีโขนให้กลับกลายมาเป็นคนดังเดิม ก็เปรียบเสมือนการได้กำเนิดใหม่อีกด้วย ฉะนั้นการแต่งเป็นผีโขนในงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุวัดศรีหลวงแจ้ซ้อน จึงเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่ช่วยเยียวยาความทุกข์ระทมของการมีรูปไม่งามให้กลับมามีพลังใจอีกครั้ง ด้วยเพราะผ่าน “พิธีเปลี่ยนสภาวะ” จากด้านในจิตใจของตนเองมาแล้ว กล่าวคือ การยินยอมทำให้ตนเองดูน่าเกลียดน่ากลัวจนกลายเป็นผี เมื่อเสร็จพิธีแล้วก็ได้กลับมาเป็นคนใหม่ที่ได้ฝังหรือเผาความน่าเกลียดน่ากลัวซึ่งเป็นปมหนึ่งในใจของตนให้หายไปพร้อมกับชุดผีโขนด้วย ยิ่งไปกว่านี้คือ ผู้ที่ผ่านการแปลงกายเป็นผีโขนในประเพณีสรงน้ำพระธาตุยังได้กลายเป็นคนใหม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยบุญกุศลอันมีความงดงามเป็นเครื่องรับประกันในชาติต่อไปอีกด้วย อย่างไรก็ดีการแต่งกายเป็นผีโขนในปัจจุบัน มักจะเป็นเด็กวัยรุ่นหรือเด็กเล็กๆที่ออกมาสวมชุดผีโขนร่วมในขบวนแห่ครัวตานกันอย่างคึกคักด้วยเพราะมีการแจกเงินเป็นรางวัลให้กับผีโขนรุ่นใหม่นั่นเอง


ข้อมูลจากการสัมภาษณ์
ผู้บอกข้อมูล : คุณป้าผาณิต สถาปัตย์ (อายุ 71 ปี บ้านศรีหลวงแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง)
ผู้สัมภาษณ์ : อ.ภาณุวัฒน์ สกุลสืบ (นักวิจัยโครงการฯ)
วันที่เก็บข้อมูล : 30 มิ.ย. 2564

ข้อมูลภาพ
รูปปั้นผีโขน ถ่ายภาพโดยทีมวิจัยฯ
รูปผีโขนในบรรยากาศการแห่ครัวตาน ถ่ายภาพโดย นายมงคล ประกอบการ (ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม) องค์การบริหารส่วนตำบลหัวเมือง อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง

แหล่งข้อมูล : คุณป้าผาณิต สถาปัตย์ (ผู้บอกข้อมูล)
ผู้บันทึก : Panuwat Sakulsueb
วันที่บันทึก : 26/07/2564
เปิดอ่าน : 1,381 ครั้ง

การเขียนอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์
ภาพ

วิดีโอ

แผนที่ทางภูมิศาสตร์

เว็บไซต์อัตลักษณ์ลำปาง
ที่ตั้ง มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
เลขที่ 119 หมู่ 9 ถนนลำปาง-แม่ทะ อำเภอเมือง
จังหวัดลำปาง 52100

© 2564-2567 ระบบฐานข้อมูลอัตลักษณ์ จังหวัดลำปาง